ในปัจจุบันนักอ่านหลาย ๆ ท่าน ก็อยากเป็นนักเขียน บ้างก็ชอบเขียนเรื่องสั้น บ้างก็ชอบเขียนนิยาย บ้างก็ชอบเขียนสารคดี ฯลฯ การเขียนแต่ละประเภทก็จะมีความยากง่ายและรายละเอียดที่แตกต่างกัน แต่ถ้าท่านไหนอยากจะเขียนเรื่องสั้นละก็เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการเขียนเรื่องสั้นมาฝาก
ประการแรก การเขียนเรื่องสั้นต้องมีแนวความคิดหลักของเรื่องหรือที่เรียกว่า Theme นั่นเอง แต่หลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าต้องมี Theme เท่านั้นถึงจะเขียนได้หรือเปล่า คำตอบคือไม่จำเป็นค่ะแต่การเขียนเรื่องสั้นบางครั้งการที่เราไม่รู้ว่าแนว ความคิดหลักของเรื่องคืออะไรอาจจะทำให้เรื่องที่เราเขียนขาดทิศทางในการ ดำเนินเรื่อง ทำให้เรื่องที่เขียนออกมาทำให้ผู้อ่านสับสน ไม่รู้ว่าผู้เขียนโฟกัสตรงจุดไหน และต้องการบอกอะไร
ประการที่สอง คือ การวางพล็อตเรื่องค่ะ เราควรวางพล็อตว่าเรามี Theme แบบนี้เราจะดำเนินเรื่องแบบไหน การวางพล็อตควรวางพล็อตแบบคร่าว ๆ เช่น เปิดเรื่องอย่างไร ตัวละครเป็นใคร ทำอะไร ที่ไหน ผลเป็นอย่างไร และปิดเรื่องอย่างไร การวางพล็อตเรื่องถือได้ว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เหตุเพราะว่าเรื่องที่อ่านจะออกมาสนุก น่าสนใจ ซาบซึ้ง ก็เพราะพล็อตเรื่องที่ดี เพราะฉะนั้นเมื่อได้ Theme มาแล้วนักเขียนควรที่จะวางพล็อตจาก Theme นั้นอย่างรอบคอบและระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง
ประการสุดท้าย การเขียนเรื่องสั้นยากกว่าการเขียนเรื่องยาวตรงที่ผู้เขียนต้องใส่ความสมจริงลงในหน้ากระดาษที่จำกัด ต้องให้ผู้อ่านรู้สึกว่าสิ่งที่เราเขียนนั้นมีตัวตนจริง ๆ ไม่ใช่แค่เรื่องสมมุติ นอกจากจะทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่าเป็นเรื่องจริงแล้ว สิ่งที่ลืมไม่ได้อีกเรื่องหนึ่งคือ การใส่เหตุและผลให้กับตัวเรื่อง ตัวอย่างเช่น ตัวเอกเมื่อยังเยาว์ถูกพ่อกระทำทารุณ โตขึ้นมาจึงเป็นคนชอบใช้กำลัง เป็นต้น การใส่เหตุผลของการกระทำนั้น ๆ ทำให้ผู้อ่านคล้อยตามสิ่งที่เราเขียน หรือบางครั้งผู้เขียนอาจจะใช้เทคนิคเปิดเรื่องด้วยการกระทำนั้นก่อนแล้วเฉลยในตอนท้ายเรื่องก็ได้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงทำแบบนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งกลวิธีการเขียนที่ทำให้ผู้อ่านติดตามได้อย่างดี
เทคนิคทั้ง 3 ประการนี้เป็นแค่เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ในการเขียน หากท่านใดอยากเขียนเรื่องได้ดีก็ต้องลงมือเขียน แล้วเทคนิคที่เหลือนั้นก็จะเกิดจากการพัฒนาของท่านเอง
ที่มา : TooTked มนุษย์ - ภาษาไทย มช ปี ๒
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น